มาลดน้ำตาลในเลือด ด้วยการฝึกโยคะกันเถอะ

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง (hyperglycemia) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ “โรคเบาหวาน” (Diabetes mellitus)เป็นหนึ่งในโรคที่สร้างความทุกข์ทรมานแก่ผู้ป่วยเป็นอย่างยิ่ง ผู้ป่วยมักมีอาการอ่อนเพลียเหนื่อยง่าย และมีปัญหาในการนำพลังงานไปใช้เนื่องจากมีปัญหาในการนำน้ำตาลไปสร้างพลังงานสะสม ทำให้ไม่เหมาะที่จะออกกำลังกายทั่วไปที่ใช้แรงเยอะ แต่ในขณะเดียวกันก็จำเป็นต้องออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ดังนั้นโยคะจึงกลายมาเป็นตัวเลือกในการออกกำลังกายที่ตอบโจทย์ในกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวาน เนื่องจากการเคลื่อนไหวที่ค่อยเป็นค่อยไปแต่ในขณะเดียวกันก็ช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อได้ทุกส่วน ยิ่งกว่านั้นโยคะยังมีส่วนช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานได้อีกด้วย

กลไกการลดน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานด้วยโยคะ

โรคเบาหวานแบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลักคือ Type 1 ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของตับอ่อนที่ไม่หลั่งฮอร์โมนอินซูลิน และ Type 2 ซึ่งเกิดจากตัวรับฮอร์โมนอินซูลินของเซลล์ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ทั้งสองกรณีส่งผลให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีปริมาณน้ำตาลในกระแสเลือดสูงขึ้นกว่าคนปกติ และส่งผลให้ไตไม่สามารถดูดกลับน้ำตาลจำนวนมากนี้ได้ทั้งหมดจึงสามารถพบน้ำตาลในปัสสาวะของผู้ป่วยได้ด้วย เนื่องจากไม่สามารถควบคุมระดับของน้ำตาลในเลือดได้เช่นเดียวกับคนปกติ ทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานจำเป็นต้องดูแลเรื่องอาหารการกิน การออกกำลังกาย รวมถึงเรื่องอื่น ๆ ในชีวิตประจำวันมากกว่าปกติ

จากการวิจัยในผู้ป่วยโรคเบาหวานทั้งสองชนิด พบว่าผู้ป่วยที่ทำการฝึกโยคะอย่างต่อเนื่องจะสามารถกระตุ้นเบต้าเซลล์ในตับอ่อนให้เพิ่มจำนวนขึ้น ซึ่งเบต้าเซลล์ทำหน้าที่ในการสร้างฮอร์โมนอินซูลิน ช่วยให้ผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวาน Type 1 มีปริมาณฮอร์โมนอินซูลินที่เพิ่มสูงขึ้นได้ ในขณะเดียวกันการฝึกโยคะอย่างต่อเนื่องยังช่วยให้ตัวรับอินซูลินในเซลล์เป้าหมายมีความไวต่อการรับฮอร์โมนอินซูลิน (insulin sensitivity) เพิ่มสูงขึ้น ทั้งสองกรณีส่งผลให้น้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานลดลงตามมาในที่สุด

โยคะลดฮอร์โมนเครียด อีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือด

นอกจากโยคะจะมีส่วนช่วยในการลดน้ำตาลในเลือดด้วยกลไกดังกล่าวข้างต้น การฝึกโยคะเป็นประจำต่อเนื่องยังช่วยให้ผู้ฝึกลดความกังวล คลายเครียด ทำให้ปริมาณของฮอร์โมนคอร์ติซอลหรือฮอร์โมนความเครียดลดน้อยลงตามมา ซึ่งโดยปกติแล้วฮอร์โมนคอร์ติซอลจะส่งผลให้เกิดการเพิ่มน้ำตาลในเลือดให้สูงขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมกับสถานการณ์ที่จำเป็นต้องใช้พลังงานต่าง ๆ เมื่อไม่เกิดการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลจึงส่งผลให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดของผู้ป่วยลดลงกว่าปกติด้วยเช่นกัน การฝึกโยคะจึงส่งผลดีต่อผู้ป่วยโรคเบาหวานทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งยังช่วยให้ผู้ป่วยมีสุขภาพแข็งแรงจากการออกกำลังกายร่วมด้วย

รู้ข้อดีมากมายของโยคะอย่างนี้แล้ว อย่าลืมแนะนำให้ผู้ป่วยเบาหวานที่รู้จักให้ลองเริ่มต้นฝึกฝนดูเพื่อผลดีต่อสุขภาพมากมาย เพราะบางครั้งการให้กำลังใจผู้ป่วยก็สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการให้คำแนะนำที่ดีเมื่อมีโอกาส ในทางกลับกันหากวันนี้คุณเป็นหนึ่งในผู้ป่วยโรคเบาหวานที่กำลังหาวิธีดูแลสุขภาพตัวเองอยู่ โยคะอาจจะเป็นคำตอบของการสร้างสุขภาพที่ดีที่คุณตามหาอยู่ก็เป็นได้

โยคะกับการรักษาโรค ที่อยากให้คุณลองเปิดใจ

แม้ว่าในยุคสมัยใหม่ คนจะมองว่าโยคะเป็นการออกกำลังกายชนิดหนึ่ง แต่อีกประเด็นที่มักถูกพูดถึงอยู่เสมอ คือ ผู้คนเชื่อว่าโยคะมีส่วนช่วยในการรักษาโรค แท้จริงแล้วโยคะสามารถแก้ปัญหาสุขภาพในการทำให้โรคทางกายบางอย่างหายได้จริงหรือไม่ อาจไม่มีวิธียืนยันที่ชัดเจนนัก  เพราะถึงอย่างไร การออกกำลังกายทุกประเภทล้วนมีผลให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงอยู่แล้ว ถ้าทำอย่างถูกวิธี เป็นประจำ และสม่ำเสมอ ซึ่งโยคะก็เช่นเดียวกัน แต่ในขณะที่คนส่วนใหญ่มองว่าโยคะเป็นการออกกำลังกาย แต่ปัจจัยที่ทำให้มีความแตกต่างคือ มีเรื่องของการทำสมาธิ ฝึกการหายใจเข้ามามีส่วนด้วย ดังนั้น โยคะจึงถูกมองในแง่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการบำบัดรักษาโรค

โยคะช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยทั่วไปในร่างกาย

โยคะช่วยให้ร่างกายยืดหยุ่น การค่อย ๆ เคลื่อนไหวร่างกาย พร้อมกำหนดลมหายใจเข้าออกอย่างถูกวิธี มีส่วนช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยต่าง ๆ ในกลุ่มคนที่ต้องทำงานในท่าทางเดิม ๆ นาน ๆ เช่น พนักงานออฟฟิศ หรือแม้แต่ช่วยลดความเครียด บรรเทาอาการปวดหัวกับคนที่ทำงานโดยใช้ความคิดหรือรับภาวะกดดันอยู่ตลอดเวลา ปัญหาความเครียดสะสมที่ทำให้ร่างกายและจิตใจเหนื่อยล้า อ่อนเพลียนี้ แม้ดูเหมือนจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า มีผลทำให้ชีวิตประจำวันติดขัด การทำงานไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรได้ ซึ่งโยคะช่วยแก้ปัญหาในแง่ ฝึกการหายใจใหม่ ร่างกายได้รับออกซิเจนมากขึ้น สมาธิจากการปฏิบัติทำให้จิตใจสงบและคิดบวก ลดความเครียดและความกดดันสะสม ผู้ที่ฝึกฝนจึงมีคุณภาพร่างกายและจิตใจดีขึ้นตามมานั่นเอง

โยคะมีส่วนบรรเทาอาการจากโรคร้ายแรงบางอย่าง

ความเครียดแทบจะเป็นต้นตอของปัญหาสุขภาพทุกอย่าง ไม่ว่าจะเล็กน้อยจนดูเหมือนไม่อันตรายมาก เช่น ความเครียดที่ทำให้เป็นโรคกระเพาะอาหาร กรดไหลย้อน ไปจนถึงโรคที่ร้ายแรงและเป็นปัญหาใหญ่ เช่น โรคความดันโลหิต เส้นเลือดในสมองตีบ หรือแม้แต่โรคมะเร็ง ซึ่งทุกปัญหาสุขภาพเหล่านี้ล้วนต้องแก้ไขโดยการเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ และเมื่อใดก็ตามที่ยังไม่ถึงขั้นวิกฤติ นอกจากแพทย์จะแนะนำผู้ป่วยให้ดูแลตัวเองด้วยวิธีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการกินยาตามสั่ง การพักผ่อนให้เพียงพอ เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์หรืองดอาหารบางอย่างแล้ว การออกกำลังกายยังเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการช่วยฟื้นฟูร่างกาย และบางส่วนของผู้ป่วยที่ยังอยู่ในขั้นดูแลตัวเองได้จะเลือกออกกำลังกายด้วยการเล่นโยคะ โดยมีความเชื่อโยคะจะช่วยฟื้นฟูร่างกายจากภายใน ทำให้โรคร้ายแรงบางอย่างหายได้ เช่น มีข้อมูลที่ระบุว่า หากเล่นโยคะเป็นประจำในระยะเวลาที่ยาวนานมากพอ จะมีส่วนทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานลดลงได้ เพราะการใช้อาสนะบางท่า มีส่วนในการกระตุ้นการทำงานของอินซูลิน และเบตาเซลล์ในตับอ่อน รวมไปถึงลดไขมันส่วนเกินในร่างกาย นอกจากทำให้ร่างกายกระชับ เสริมสร้างกล้ามเนื้อ ยังลดภาวะแทรกซ้อนบางอย่างในผู้ป่วยเบาหวานลงได้อีกด้วย

แม้ในความเป็นจริง จะเป็นการยากที่จะพิสูจน์ว่า โยคะสามารถทำให้คนเราหายป่วยได้จริงไหม แต่เชื่อว่าผู้ป่วยหลายคนที่มีวินัย เข้ารับการรักษาและปฏิบัติตัวตามหมอสั่ง เลือกกินอาหาร และตั้งใจออกกำลังกาย จะได้รับประโยชน์จากหลายวิธีการในการฟื้นฟูตนเองเหล่านี้แน่นอน ซึ่งโยคะจะช่วยตอบสนองในแง่ของการสร้างสมาธิ ทำให้มีสติ ใจเย็น และผ่อนคลายมากขึ้น และการที่สภาพจิตใจดีขึ้นนี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้นในการบรรเทาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ