มารู้จัก “โยคะ” ให้ครอบคลุมกว่าที่คุณเคยรู้

เมื่อผู้หญิงสักคนหนึ่งนึกถึงการออกกำลังกายที่ไม่ยุ่งยากและเหน็ดเหนื่อยมากนัก สามารถเล่นได้ทุกที่ทุกเวลา เล่นที่บ้านหรือในสถานที่ไม่ต้องกว้างขวางก็สามารถทำได้นั้น คำถามนี้คงตอบโจทย์ได้ไม่ยากนัก ซึ่งเชื่อว่าสาว ๆ หลายคนคงนึกถึงการเล่นโยคะกันอยู่ไม่น้อยเลย เพราะการเล่นโยคะกำลังเป็นที่นิยมชมชอบสำหรับสาวสังคมยุคใหม่เป็นอย่างมาก จนอาจเรียกว่าการเล่นโยคะในปัจจุบันนับเป็นแฟชั่นหนึ่งของการออกกำลังกายเลยก็ว่าได้ ดังนั้นเราควรมาทำความรู้จักโยคะให้ครอบคลุมในหลาย ๆ ด้านกันดีกว่า

โยคะคืออะไร

                โยคะ คือศาสตร์ของการออกกำลังกายแขนงหนึ่ง มีที่มาเริ่มแรกจากประเทศอินเดีย ซึ่งไม่ใช่การออกกำลังกายแนวใหม่แต่อย่างใด หากแต่เป็นการออกกำลังกายแขนงหนึ่งที่มีมาตั้งแต่ดั้งเดิมยุคโบราณแล้ว แต่เป็นการออกกำลังกายโดยทั่วไปของคนชั้นสูง จนในปัจจุบันที่มีการรับมาและดัดแปลงจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งการเล่นโยคะถูกนำไปเล่นกันแทบจะทุกประเทศทั่วโลก แน่นอนว่าไทยก็รับเอาศาสตร์นี้มาด้วยเช่นกัน ซึ่งต้องยอมรับว่าในอดีตการเล่นโยคะในไทยไม่เฟื่องฟูมากนัก แต่เมื่อเหล่าบรรดาคนดัง เซเล็บต่าง ๆ พากันเล่นโยคะและอวดโฉมจากผลแห่งการเล่นโยคะผ่านสื่อออนไลน์ต่าง ๆ แล้วนั้น ก็ทำให้การเล่นโยคะเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างและมีการเล่นโยคะตามแบบคนดังกันมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

โยคะมีกี่ประเภท อะไรบ้าง

1.Hatha Yoga (หฐโยคะ) เป็นการเล่นโยคะแรกเริ่มของคนที่อยากสัมผัสศาสตร์แขนงนี้เลย และเป็นการเน้นการฝึกสมาธิให้มีสติ เน้นการรักษาความสมดุลของร่างกายภายในมากกว่าการเน้นการสร้างกล้ามเนื้อและความแข็งแรง ดังนั้นจึงเป็นท่าการออกกำลังกายที่เชื่องช้าและง่าย ๆ ไม่เน้นความรวดเร็วและกล้ามเนื้อ

2.Vinyasa Yoga (วินยาสะ โยคะ) เป็นการออกท่าทางที่อัพเลเวลจากประเภทแรกมาอีกหนึ่งสเต็ป แต่ก็ยังคงเป็นท่าทางการออกกำลังกายที่เชื่องช้าอยู่ แต่เน้นความต่อเนื่องมากขึ้น ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการลดความอ้วน เพราะเหมาะกับคนอ้วนที่ต้องการออกกำลังกายที่ลดอาการบาดเจ็บจากการออกท่วงท่าได้มากทีเดียว

3.Ashtanga Yoga (อัษฎางค์โยคะ) เป็นความยากของการเล่นโยคะมาอีกหนึ่งขั้น เพราะประเภทนี้จะเน้นการเล่นท่วงท่าที่ยากขึ้น นอกจากการเน้นการกำหนดลมหายใจแล้ว ยังต้องควบคุมสายตาให้สอดคล้องกับลมหายใจและในขณะเดียวกันก็ต้องควบคุมท่วงท่าในการเล่นโยคะไปพร้อม ๆ กันอีกด้วย

4.Anusara yoga (อนุสราโยคะ) เหมาะกับผู้ป่วยที่ต้องการออกกำลังกายเพื่อรักษาและต้านทานโรค เพราะเป็นการออกท่วงท่าที่เน้นเฉพาะจุดเป็นสำคัญ ดังนั้นการเล่นโยคะประเภทนี้จึงควรอยู่ในการดูแลของผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิดด้วย

5.Bikram Yoga (โยคะ ร้อน) เป็นการออกท่วงท่าในห้องที่มีอุณหภูมิใกล้เคียงกับอุณหภูมิของร่างกายเพื่อให้เกิดการปรับสมดุลให้มากที่สุด การเล่นประเภทนี้ยังช่วยในเรื่องการยืดหยุ่นกล้ามเนื้อได้ดี และการขับของเสียในระหว่างการเล่นได้ด้วย และแน่นอนว่าเมื่อมีการขับของเสีย เช่น เหงื่อออกมาในปริมาณที่พอเหมาะแล้ว ก็จะเป็นการลดความอ้วนไปในตัวด้วย

โยคะมีให้เลือกเล่นได้ตามใจชอบหลายประเภท และทุกประเภทก็ตอบโจทย์คนรักสุขภาพที่ต้องการออกกำลังกายด้วยท่วงท่าเบา ๆ แต่ได้สุขภาพไม่เบาด้วย ดังนั้นหากชอบประเภทใดหรือรู้ว่าประเภทใดที่เหมาะกับตัวเองแล้ว ก็ลองเปิดใจเล่นโยคะกันดูเสียแต่วันนี้กันเลย

เครดิตภาพ : https://pixabay.com/th/บัลเล่ต์-นักเต้น-การทำสมาธิ-คน-1840275/