ถังขยะธรรมชาติที่ทุกคนมี กับการออกกำลังกาย

หลายคนคิดว่าการออกกำลังกายด้วยการทำโยคะ ไม่เหมาะสำหรับคนอ้วน ใช่คุณคิดถูกแล้ว เพราะโยคะเป็นการบริหารร่างกายที่มีจุดประสงค์เพื่อช่วยฝึกการหายใจให้เกิดสมาธิ และเป็นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อลาย (Muscle) ให้มีความแข็งแรง อย่างที่เราทราบกันดี กล้ามเนื้อคือมัดเนื้อเยื่อที่เป็นกันชนให้กับกระดูกเพื่อลดแรงปะทะมากมายที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตหลายรูปแบบบนโลก

ดูเหมือนว่าโยคะอาจเหมาะสมกับคนผอมหุ่นดี “ตามที่เห็น” และบางคนคิดว่าคนที่ผอมแห้งแม้จะเรี่ยวแรงไม่ได้น้อยอย่าง Skinny พวกเขาเป็นมนุษย์ที่โชคดี เพราะกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน อันนี้คุณคิดผิด เพราะคนที่ผอมเพรียวหุ่นดีอยู่เสมอ แม้จะกินไม่เลือกแม้แต่หมูสามชั้นที่คนอ้วนจำเป็นต้องเข็ดขยาด คนหุ่นดีก็ไม่ได้รังเกียจรังงอนอะไร แล้วสิ่งที่พวกเขากินเข้าไปมันไปอยู่ที่ไหน? แน่นอนส่วนเกินจากอาหารที่ร่างกายไม่ต้องการจะเข้าไปอยู่ในกระแสเลือด

เคยสังเกตหรือไม่ คนหุ่นดีที่กินไม่เลือกจะชอบกินแต่ไขมัน

เคยสังเกตหรือไม่ว่าคนผอมที่มักกินไม่เลือก พวกเขาจะโปรดปรานไขมันเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นของทอด และไขมันจากสัตว์ แม้พวกเขาจะกินได้เสมอ แต่พวกเขามักเลี่ยงอาหารที่เต็มไปด้วยคาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าว ขนมปัง แป้ง หรืออาหารอย่างอื่นที่ให้พลังงานสูง เพราะอะไร? เพราะพวกเขารู้ตัวเองว่าถ้ากินคาร์โบไฮเดรตเข้าไปมาก มันจะแน่นท้อง! ก่อนที่ของอร่อยอย่างอื่นไม่ทันได้ตักใส่ปาก แน่นอนธรรมชาติของความอยากสอนให้พวกเขาเป็นคนฉลาด แต่ธรรมชาติไม่ได้สร้างถังขยะให้พวกเขามากเท่าใดนัก

หลายคนอาจแปลกใจที่พบว่าคนผอมแห้ง แต่กลับเป็นโรคบกพร่องในการเผาผลาญไขมัน มันเป็นไปได้ยังไง? คนกลุ่มนี้ธรรมชาติไม่ได้สร้างถังขยะให้พวกเขา ยีนส์พันธุกรรมสร้างเพียงกล่องใส่ตุ้มหู สำหรับเก็บไขมันที่ร่างกายไม่ต้องการ “แค่เนี๊ย!” ดังนั้น ถ้าคนผอมกลุ่มนี้เลือกกินแต่ไขมัน พวกเขาอาจจะมีอายุสั้นกว่าที่ควรจะเป็น แต่สำหรับคนหุ่นดีที่มีถังขยะขนาดแค่เขื่อง ๆ อาจจะมีปัญหาไขมันในเลือดสูงเมื่ออายุเข้าวัย 50 ถ้าพวกเขาไม่เบิร์นไขมันออกเป็นประจำทุกวัน

ถังขยะของคนอยู่ที่ไหน

พุง ตูด สะโพก ต้นขา ต้นแขน คอ แก้ม ฯลฯ แน่นอนเกือบทุกส่วนที่อยู่ภายใต้การห่อหุ้มของผิวหนัง คือถังขยะที่มาจากยีนส์ตามธรรมชาติของบุพการี จึงทำให้คนที่อ้วนตุ้ยนุ้ยนั้นเต็มไปด้วยถังขยะรอบตัว เมื่อกินแป้งผสมกับไขมันเข้าไปมากเข้า ๆ ถังขยะก็จะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนสะกดได้คำว่า “อ้วน” และที่สำคัญไปกว่าอะไรทั้งหมด ไขมันเลว 1 ใน 4 ส่วน จะแฝงตัวเข้าไปในกระแสเลือดโดยพลัน และที่เหลืออีก 3 ส่วน จะตกตะกอนพักไว้ในถังขยะทั้งหลายที่รายล้อมรอบตัวพวกเขา รอเวลาป้อนไขมันเข้าไปในกระแสเลือดเท่าที่จะเป็นไปได้ จนเมื่อเลือดที่เต็มไปด้วยไขมัน ความหนืดข้นของมันจะตกตะกอนและเกาะตามผนังเส้นเลือด

แต่อย่างน้อยคนอ้วนก็มีความโชคดี ตรงที่มีถังขยะใบใหญ่ไว้พักไขมันเลว ถ้าคนอ้วนหยุดกินไขมันตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เสริมด้วยการออกกำลังกายที่เน้นการเบิร์นไขมัน ระบบเผาผลาญในร่างกายก็จะหยิบไขมันในถังขยะมาใช้อย่างสนุกและเหลือเฟือ จนท้ายที่สุดถังขยะจะหดลงและแทนที่ด้วยกล้ามเนื้อลาย

ออกกำลังกลายอย่างไรช่วยลดไซส์ถังขยะ

อย่างที่บอกตั้งแต่เริ่มแรก คนอ้วนนั้นไม่เหมาะสมกับการทำโยคะ เพราะการทำโยคะไม่ใช่วิธีการลดความอ้วนที่ไขมันในเส้นเลือดจะลดลงได้เร็ว แต่คนอ้วนที่ฝึกโยคะจะทำให้มีสมาธิและมีจิตใจจดจ่อกับการลดน้ำหนัก พวกเขาจะสามารถปฏิเสธอาหารที่ส่งเสริมความอ้วนได้ง่ายกว่า คนอ้วนที่ไม่ฝึกโยคะเลย

การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับคนน้ำหนักเกิน คือ การขยับเพื่อเขย่าไขมันในถังขยะอย่างต่อเนื่อง แต่ถามว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ต่อวันนั้น ตอบไม่ได้? เพราะไม่รู้ว่าคนอ้วนแต่ละคนกินอะไรเข้าไปเท่าไหร่ต่อวัน เช่นนั้นเมื่อกินอาหารทั้งวันเข้าไปเท่าไหร่ ก็จะต้องขยับเพื่อเบิร์นไขมันให้ไหลออกมาพร้อมเหงื่อมากเท่านั้น และถ้าคุณเป็นคนอ้วนอาจจะต้องขยับมากกว่าที่กินเข้าไปใหม่ต่อวัน เพราะแรงส่วนเกินที่ขยับออกไปจะช่วยเผาผลาญพลังงานสะสมของเมื่อวานออกมาด้วย ดังนั้น ยิ่งขยับเพื่อเบิร์นไขมันได้มากเท่าไหร่ ไขมันเลวที่สะสมอยู่ในถังขยะ ก็จะยิ่งลดน้อยลงมากเท่านั้น ถ้าเช่นนั้นก็อย่าปล่อยให้ไขมันซึมซับเข้าไปในเส้นเลือดอีกต่อไปเลย